วิธีดูแลตัวเอง และคนในบ้าน สู้โรคไม่ป่วยง่าย

วิธีดูแลตัวเอง  จาก สถานการณ์โรคระบาด โรคติดต่อ ต่างๆ ทำให้หลายครัวเรือนเริ่มดูแลตัวเองด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม สร้างระยะห่างระหว่างตนเองกับผู้อื่น เช่น การไม่ออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ บางคนเริ่มเข้าสู่โหมด Work from home เปลี่ยนไปเป็น Work from home ลด  การติดเชื้อ รวมทั้งเด็กๆ ที่ต้องอยู่บ้านเนื่องจากโรงเรียนปิด เราจึงมีวิธีการพื้นฐานในการดูแลตัวเองและคนที่คุณรักในการดูแลสุขอนามัยของทุกคนในบ้าน ที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์

 

 

 

1. ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่
เพราะมือเป็นอวัยวะที่ต้องสัมผัสสิ่งของรอบตัวและหลีกเลี่ยงได้ยากโดยเฉพาะเด็กและผู้ใหญ่ที่บ้านที่มักเอามือไปสัมผัสใบหน้า ยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำความสะอาด มีประสิทธิภาพในการลด การติดเชื้อ ทุกคนในบ้านโดยเฉพาะเด็ก ดังนั้นควรเสริมสร้างนิสัยการล้างมือ ล้างมืออย่างสม่ำเสมออย่างถูกวิธี ใช้เวลาอย่างน้อย 20 วินาที หรือเทียบเท่ากับการร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด 2 ครั้ง ทุกครั้งหลังจับสิ่งของหลังกลับบ้านและก่อน-หลังรับประทานอาหาร และต้องใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดอื่นๆ เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อหรือเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไปในกรณีที่ออกไป หรือวางไว้ในจุดเพิ่มเติมต่างๆ ของบ้าน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร เป็นต้น

2. คุณควรดื่มน้ำวันละ 6 ถึง 8 แก้ว
เพียงแค่ดื่มน้ำหรือจิบน้ำบ่อยๆ ตลอดทั้งวัน ก็สามารถช่วยกระตุ้นระบบต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติได้ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการพัฒนาอย่างเต็มที่ แต่สิ่งสำคัญคือการหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องแก้ว o ห้ามใช้ท่อร่วมกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ : แพร่เชื้อระหว่างกัน

3. กินอาหารที่มีวิตามินเยอะๆ
เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดโอกาสป่วย การติดเชื้อ
– กลุ่มวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง ลูกเกด มะขาม เกรปฟรุต สตรอว์เบอร์รี กระเจี๊ยบเขียว ดอกขี้เหล็ก มะขามป้อม ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
– กลุ่มวิตามินอี เช่น ไข่แดง ทูน่า ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
– กลุ่มสมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น กระเทียม หัวหอม ขิง ข่า ขมิ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสนับสนุนสุขภาพโดยรวม และพื้นฐานทางโภชนาการที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเลือกกินอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ ปรุงสดสะอาดปลอดภัย รวมถึงต้องใช้ช้อนกลางเสมอแม้อยู่ที่บ้าน เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งครอบครัว

4. การออกกำลังกาย
วันละ 30-60 นาที เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสร้างร่างกายที่แข็งแรง เจ็บป่วยได้ไม่ง่าย แน่นอนในสถานการณ์ที่มีโรคติดต่อ การติดเชื้อ แพร่ระบาดเราทุกคนควรหลีกเลี่ยงการไปออกกำลังกายในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่น โรงยิม สนามกีฬา สระว่ายน้ำ แต่เรายังสามารถเลือกออกกำลังกายที่บ้านได้ง่ายๆ (Work Out at Home) โดยการตรวจวัดขณะทำงานบ้าน เช่น การทำแห้งและการนั่งยองๆ กล้ามเนื้อขา การถูบ้านโยกไปทางซ้ายและขวาเผาผลาญพลังงาน เช็ดพื้นด้วยกระดานหน้าไร้ท้อง ขัดห้องน้ำ นั่งลงและฟิตหุ่น ฯลฯ หรือเลือกออกกำลังกายง่ายๆ เช่น ซิทอัพบนเตียง ดูซีรีส์ด้วยการปั่นจักรยานอากาศ หยิบขวดน้ำมาสร้างกล้ามแทนดัมเบลล์ ฯลฯ ช่วงนี้อยู่บ้าน. เป็นโอกาสที่ดีที่จะเชิญทุกคนมาช่วยงานบ้าน เพราะมันมีประโยชน์ 3 ประการ คือ การทำความสะอาดที่ดี เชื่อมความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และการมีสุขภาพที่ดีไปพร้อม ๆ กัน

5. ปรับปรุงอารมณ์ของคุณ
จากแหล่งข้อมูลต่างๆ การบริโภคข่าวสารในช่วงนี้อาจทำให้สุขภาพจิตของใครหลายๆ คนแย่ลงได้ จากความเครียด ความวิตกกังวล และความกลัว คุณต้องเลือกรับข่าวสารอย่างมีสติ โปรดตรวจสอบและเลือกอ่านจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น อีกหนึ่งวิธีคลายเครียด คือการใช้โอกาสนี้เพื่อเริ่มต้นพัฒนาทักษะหรือทำงานอดิเรกที่คุณชอบ เช่น เรียนคอร์สออนไลน์ อ่านหนังสือ ดูซีรีส์ ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ เต้นรำ เป็นต้น

นี่เป็นแนวทางด้านสุขภาพและสุขอนามัยขั้นพื้นฐานที่ทุกคนในครอบครัวควรปฏิบัติตาม โดยเฉพาะในช่วงที่ โรคติดต่อ ระบาด สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ คุณต้องเฝ้าสังเกตอาการของตนเองและสมาชิกในครอบครัวทุกคน หากคุณมีไข้สูงกว่า 37.5 องศา ไอแห้ง เจ็บคอ หายใจไม่อิ่ม หรือหายใจถี่ ให้อยู่ในความสงบ แต่คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลทันที เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อ สิ่งที่ควรทำคือ โทรเรียกแพทย์หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญ

 

วิธีดูแลตัวเอง ทำให้เกิด สุขภาพดี

 

วิธีดูแลตัวเอง  ทำให้ “ไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” น่าจะเป็นคำที่ทุกคนเคยได้ยินและได้ยินมาอย่างยาวนาน แต่จะรอดจากโรคต่างๆ ได้อย่างไร อาจเป็นคำถามที่อยู่ในใจของใครหลายคนที่คงทราบอยู่แล้ว สุขภาพกายและสุขภาพจิตเชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากคุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก็จะส่งผลให้จิตใจแจ่มใสเบิกบานไปพร้อม ๆ กัน ถ้าไม่แข็งแรงก็ป่วยเป็นเหตุให้จิตเกิดรอยย่น สุขภาพดีมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น

กินอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน เพราะสารอาหารแต่ละชนิดมีหน้าที่ที่แตกต่างกันสำหรับร่างกาย ว่าการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันโรคและรักษาโรคไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นการกินที่ถูกต้องจึงเป็น อาหารไขมันต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งควรเป็นไขมันอิ่มตัวต่ำ มีคอเลสเตอรอลต่ำ มีวิตามิน แร่ธาตุและใยอาหารสูง เน้นกินผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่หวาน เค็ม มัน ย่าง และดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การออกกำลังกาย สม่ำเสมอ การออกกำลังกายแบบไหนที่ดีต่อสุขภาพโดยเฉพาะหัวใจ ไม่จำเป็นต้องหักโหมจนเกินไป สามารถทำได้โดยการออกกำลังกายระดับความเข้มข้นปานกลางจนกว่าการหายใจของคุณจะดีขึ้นเล็กน้อย เช่น เดินเร็วหรือทำงานบ้าน แต่ถ้าคุณต้อง การออกกำลังกาย เพื่อพัฒนาการทำงานของปอดและหัวใจ คุณควรกำหนดเป้าหมายอัตราการเต้นของหัวใจด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อย 30 นาที/ชั่วโมง 5 ครั้งต่อสัปดาห์ และคุณควรออกกำลังกายประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังอาหารหลักของคุณ แต่ต้องเหมาะสมกับอายุ สภาพร่างกาย ท่าทางที่ถูกต้อง และเส้นทางที่ถูกต้อง อย่าออกกำลังกายมากเกินไปและอย่าหักโหมจนเกินไป

นอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวโดยไม่ต้องนอน แต่ถ้านอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะรู้สึกเครียดเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ การอดนอนยังเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะซึมเศร้า โดยทั่วไป วัยรุ่น ผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือผู้สูงอายุ พวกเขาต้องการนอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน

 

การตรวจสุขภาพคืออะไร

 

การตรวจสุขภาพเป็น  วิธีดูแลตัวเอง  สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้ว่าตนเองเป็นโรคนี้ ไม่มีอาการหรืออาการของโรค เพื่อหาปัจจัยเสี่ยง ภาวะผิดปกติ หรือโรคที่นำไปสู่การป้องกัน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การส่งเสริมสุขภาพหรือให้การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

ตัวอย่างเช่น ถ้าพ่อของคุณอายุ 40 ปี พ่อของคุณเป็นโรคเบาหวาน กินไม่ระวังไม่ออกกำลังกาย ผลการตรวจสุขภาพพบว่าระดับน้ำตาลเริ่มสูง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานได้โดยการพูดคุยและรับคำแนะนำจากแพทย์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงสู่ระดับปกติ เป็นต้น

การตรวจสุขภาพจำเป็นมากแค่ไหนสำหรับสุขภาพ ทุกวันนี้ หลายคนไปพบแพทย์ก็ต่อเมื่อรู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือเมื่อมีโรคต่างๆ ที่จริงแล้ว การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มมีอาการเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะถึงแม้จะรับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายเป็นประจำและนอนหลับให้เพียงพอ แต่อาจมีเงื่อนไขแฝงบางอย่างในตัวเรา ไม่แสดงอาการผิดปกติ เช่น เบาหวาน ระดับไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพยังเป็นการประเมินความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้แก่ อายุ เพศ หรือพฤติกรรม และปัจจัยเสี่ยง เช่น อายุ 55 ปี- คนแก่ที่สูบบุหรี่มาอย่างน้อย 30 ปี มีประวัติ ของญาติสนิท มะเร็งปอดจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดสูงกว่าผู้ที่ไม่มีความเสี่ยง ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดด้วยวิธีการต่างๆ จะช่วยในการค้นหาโรค นำไปสู่การรักษาในระยะแรก ก่อนจะลุกลามจนรักษายาก จึงต้องตรวจสุขภาพดังนี้

เป็นการค้นหาโรคประจำตัวหรือโรคได้ง่าย ว่าหากพบแต่เนิ่นๆ จะช่วยรักษาและช่วยป้องกันการแพร่ระบาด การออกกำลังกาย มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าค่ารักษาเพราะค่ารักษาพยาบาลจะสูงกว่าค่าตรวจเพื่อป้องกันโรค
ช่วยปรับทัศนคติการใช้ชีวิตประจำวันให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการพักผ่อนนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีเป็นที่มาของจิตใจ จิตใจที่ผ่อนคลายและมีความสุข

 

บทความแนะนำ