4 โรคระบาดอันตราย สภาพอากาศในช่วงต้นปีเปลี่ยนจากร้อนเป็นหนาว ก็สามารถทำให้เกิดโรคต่างๆได้ โดยเฉพาะโรคที่แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว ดังนั้น โรงพยาบาลพญาไท 2 จึงขอแจ้งให้ทราบถึงโรคติดเชื้ออันตราย 4 โรค ได้แก่ รวมวิธีป้องกันโรคง่ายๆ หากเรานิ่งเฉย เราก็อาจตกเป็นเหยื่อของโรคระบาดเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว
4 โรคระบาดอันตราย โรคไข้หวัดใหญ่
4 โรคระบาดอันตราย โรคไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อทางเดินหายใจที่แพร่กระจายได้ง่ายและกว้างขวาง โรคนี้พบได้ในทุกกลุ่มอายุ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์อาจมีอาการป่วยและโรคแทรกซ้อนร้ายแรงได้
- การติดต่อ จากเชื้อไวรัสในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอ จามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไป บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา และปาก
- อาการ ผู้ป่วยจะมีไข้แบบทันทีทันใด ปวดศีรษะ หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียมาก อาจพบอาการคัดจมูก เจ็บคอ ไอจามจากหลอดลมอักเสบ ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรง เช่น หอบเหนื่อย ทานอาหารไม่ได้ อ่อนเพลียมาก ไข้สูงไม่ลด ควรรีบพบแพทย์ เนื่องจากอาจมีภาวะแทรกซ้อน คือปอดอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้
- การป้องกัน ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และสำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง และผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ควรรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
โรคอุจจาระร่วง
โรคอุจจาระร่วง หากพบในกลุ่มเด็กจะเกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่จะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาการมักไม่รุนแรง ผู้ป่วยจะหายเป็นปกติภายใน 7 – 10 วัน
- การติดต่อ เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายทางปาก และการสัมผัสของเล่นของใช้ที่ปนเปื้อนอุจจาระ น้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพอง หรือแผล รวมไปถึงการไอจามรดกัน
- อาการ มีไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ท้องเสีย บางรายถ่ายเป็นน้ำ และอาจมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
- การป้องกัน หมั่นล้างมือทุกครั้งก่อน – หลังรับประทานอาหาร และหลังขับถ่าย ทำความสะอาดของเล่นของใช้อย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการ
โรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค
- การติดต่อ ยุงลายตัวเมียจะกัดและดูดเลือดของผู้ที่เป็นโรคไข้เลือดออกก่อน แล้วจึงแพร่เชื้อสู่คนอื่นโดยการกัดคนที่อยู่ในระยะทางไม่เกิน 400 เมตร ยุงชนิดนี้สามารถกัดคนได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน มักพบได้ในบริเวณที่มีการเพาะพันธุ์ตามแหล่งน้ำนิ่งในบริเวณบ้าน เช่น ตุ่มน้ำ โอ่งน้ำ แจกัน จานรองตู้กับข้าว กระป๋อง ฝากะลา ยางรถยนต์เก่า ๆ หลุมที่มีน้ำขัง เป็นต้น
- อาการ หลังจากได้รับเชื้อจากยุงประมาณ 5 – 8 วัน จะมีอาการไข้สูงลอย (38.0-40 องศาเซลเซียส) ติดต่อกัน 2-7 วัน หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก ปวดเบ้าตา ปวดท้อง อาเจียน เบื่ออาหาร เริ่มมีจุดแดงเล็กๆ ตามแขน ขา ลำตัว และรักแร้ อาจมีเลือดกำเดาไหล และเลือดออกตามไรฟัน (อาการทั่วไปคล้ายเป็นหวัด แต่มักไม่ไอ และไม่มีน้ำมูก)
- การป้องกัน ป้องกันตัวเองและคนรอบข้างไม่ให้โดนยุงกัด นอนในมุ้งหรืออยู่ในห้องที่สามารถป้องกันยุงลายได้ ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงการขจัดลูกน้ำและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
โรคอหิวาตกโรค
4 โรคระบาดอันตราย โรคอหิวาตกโรค เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในอุจจาระ อาเจียนของผู้ป่วยหรือผู้ที่เป็นพาหะ จากนั้นแพร่กระจายไปสู่สิ่งแวดล้อม ปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม
- การติดต่อ ทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรือเมื่อมือของผู้ป่วยไปสัมผัสกับเครื่องใช้สิ่งของต่างๆ แล้วมีแมลงวันเป็นพาหะนำโรคไปสู่คนอื่นๆ
- อาการ ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการ เป็นเพียงพาหะหรือแหล่งสะสม แล้วค่อยแพร่เชื้อโรคไปยังคนอื่น ผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง จะปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลววันละหลายครั้ง อาจหายเป็นปกติภายใน 1 – 2 วัน ส่วนผู้ที่มีอาการรุนแรง จะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำสีขาวขุ่น คล้ายน้ำซาวข้าว กลิ่นเหม็นคาวจัด อาจอาเจียน หากไม่รีบไปพบแพทย์ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ จนเกิดอาการอ่อนเพลีย ปากแห้ง กระหายน้ำ กระสับกระส่าย ตาลึกโหล ชีพจรเต้นเบา จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
- การป้องกัน รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ไม่มีแมลงวันตอม หลีกเลี่ยงอาการสุกๆ ดิบๆ ดื่มน้ำสะอาด ล้างมือก่อนปรุงอาหารและรับประทานอาหารทุกครั้ง เก็บอาหารในฝาชี หรือใส่ตู้กับข้าวให้มิดชิด รวมถึงการถ่ายอุจจาระในห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะ